วันอังคารที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568

"ข้อเข่าเสื่อมระยะเริ่มต้น ไม่ปวด แต่อยากฉีด PRP เพื่อสร้างกระดูกอ่อนใหม่... ทำได้จริงไหม?"

 



"ข้อเข่าเสื่อมระยะเริ่มต้น ไม่ปวด แต่อยากฉีด PRP เพื่อสร้างกระดูกอ่อนใหม่... ทำได้จริงไหม?"

วันก่อนหมอได้คุยกับคนไข้ท่านหนึ่ง สมมติว่าชื่อ "คุณป้าเพ็ญ" อายุประมาณ 60 ปี เดินเข้ามาในห้องตรวจด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง ใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่ได้เดินกะเผลก หรือมีท่าทีเจ็บปวดอะไรเลยครับ

คุณป้าเพ็ญบอกหมอว่า "หมอคะ ป้าไปตรวจสุขภาพมา หมอที่นั่นบอกว่าป้าเริ่มมีข้อเข่าเสื่อมนิดหน่อย เป็นระยะที่ 1 หรือ 2 นี่แหละค่ะ แต่ป้ายังไม่มีอาการปวดเลยนะ เดินเหินได้ปกติ แต่อยากจะมาฉีดเลือดปั่น PRP ค่ะ เห็นเขาว่ามันช่วยสร้างกระดูกอ่อนขึ้นมาใหม่ได้ ป้าอยากฉีดกันไว้ก่อน เดี๋ยวแก่ไปแล้วจะเดินไม่ได้"

คำถามของคุณป้าเพ็ญ เป็นคำถามที่หมอเจอบ่อยมากในปัจจุบันครับ ที่คนเริ่มหันมาดูแลสุขภาพเชิงป้องกันกันมากขึ้น และเทคโนโลยีการใช้ "เกล็ดเลือดเข้มข้น" หรือ PRP (Platelet-Rich Plasma) ก็กำลังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย

แต่ความเชื่อที่ว่า "ฉีดแล้วกระดูกอ่อนงอกใหม่เหมือนเด็ก" หรือ "ฉีดกันไว้ก่อนทั้งที่ยังไม่ปวด" นั้น เป็นความจริงทางการแพทย์มากน้อยแค่ไหน วันนี้หมอจะมาเล่าให้ฟังแบบเจาะลึก อ้างอิงจากข้อมูลวิชาการล่าสุด เพื่อให้ทุกคนเข้าใจตรงกันครับ

ความเข้าใจผิดเรื่อง "ยาวิเศษ" กับความเป็นจริงของร่างกาย

ก่อนอื่นหมอต้องขอชมเชยคุณป้าเพ็ญและหลายๆ ท่านที่คิดถึงการป้องกันก่อนรักษาครับ เป็นทัศนคติที่ดีมาก แต่เราต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของ "กระดูกอ่อนผิวข้อ" กันก่อนครับ

เปรียบเทียบง่ายๆ กระดูกอ่อนในข้อเข่าเรา เหมือน "ยางรถยนต์" ครับ ที่ใช้งานทุกวันมันก็ต้องมีการสึกหรอไปตามกาลเวลา ร่างกายเรามีความสามารถในการซ่อมแซมตัวเองอยู่บ้าง แต่สำหรับกระดูกอ่อนนั้น เป็นเนื้อเยื่อที่เลือดไปเลี้ยงน้อยมาก ทำให้การซ่อมแซมตัวเองตามธรรมชาติทำได้ยากกว่าผิวหนังหรือกล้ามเนื้อครับ

ความเชื่อที่ว่า ฉีด PRP เข้าไปปุ๊บ แล้วกระดูกอ่อนจะ "งอก" ขึ้นมาใหม่จนหนาปึ้กเหมือนสมัยวัยรุ่นทันทีนั้น "ยังไม่ถูกต้องซะทีเดียว" ครับ ในทางการแพทย์ เรายังไม่มีวิธีไหนที่ฉีดปุ๊บแล้วสร้างผิวข้อใหม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% ขนาดนั้น

แต่... ข่าวดีคือ PRP มีบทบาทสำคัญในการ "เปลี่ยนสภาพแวดล้อม" ในข้อเข่าครับ เดี๋ยวหมอจะอธิบายให้ฟังว่ามันทำงานอย่างไร

PRP คืออะไร? ทำไมถึงฮิตกันจัง

PRP ย่อมาจาก Platelet-Rich Plasma แปลเป็นไทยง่ายๆ คือ "พลาสมาที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น" ครับ

วิธีการคือ หมอจะเจาะเลือดจากแขนของเราเอง (เหมือนเจาะเลือดตรวจสุขภาพ) ประมาณ 10-20 ซีซี แล้วนำไปปั่นด้วยเครื่องเหวี่ยงความเร็วสูง เพื่อแยกเอาเฉพาะส่วนที่เป็น "น้ำเหลือง" และ "เกล็ดเลือด" ออกมา ส่วนเม็ดเลือดแดงที่เราไม่ต้องการก็จะแยกทิ้งไป

ในเกล็ดเลือดเข้มข้นนี้ จะอุดมไปด้วยสิ่งที่เรียกว่า Growth Factors หรือ "สารกระตุ้นการเติบโต" หลากหลายชนิด เปรียบเสมือน "หัวหน้าคนงานก่อสร้าง" ที่เก่งฉกาจครับ

เมื่อเราฉีดเจ้าหัวหน้าคนงาน (PRP) เข้าไปในจุดที่บาดเจ็บหรือเสื่อมสภาพ เขาจะไปตะโกนสั่งงานให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเอง กระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ ตื่นตัว ลดการอักเสบ และสร้างสมดุลในข้อเข่าให้ดีขึ้น

เจาะลึก: PRP ช่วย "สร้างกระดูกอ่อน" ได้จริงไหม? (ข้อมูลอัปเดตล่าสุด)

นี่คือหัวใจสำคัญของบทความนี้ครับ ข้อมูลทางการแพทย์ล่าสุดจากงานวิจัยระดับโลกหลายฉบับ ให้คำตอบไปในทิศทางเดียวกันครับว่า

สำหรับคนไข้ข้อเข่าเสื่อมระยะเริ่มต้น (ระยะ 1-2) ที่กระดูกอ่อนยังเหลืออยู่พอสมควร PRP มีผลดีในเชิงลึกดังนี้ครับ:

1. การยับยั้งการทำลาย (Slow Down Destruction): ในข้อเข่าเสื่อม จะมีสารอักเสบที่คอย "กัดกิน" กระดูกอ่อนอยู่ตลอดเวลา PRP มีฤทธิ์เข้าไปยับยั้งเจ้าสารทำลายพวกนี้ครับ ทำให้กระบวนการเสื่อม "ช้าลง" อย่างมีนัยสำคัญ นี่คือหัวใจหลักเลยครับ คือการ "ชะลอ" ไม่ให้มันพังเร็วไปกว่าเดิม

2. การฟื้นฟูสภาพ (Restoration & Homeostasis): สาร Growth Factors ใน PRP จะเข้าไปปรับสมดุลน้ำในข้อเข่า ช่วยให้เซลล์กระดูกอ่อนที่ยังเหลืออยู่ แข็งแรงขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น และตายช้าลงครับ เหมือนเราใส่ปุ๋ยชั้นดีลงไปในดินที่กำลังจะแห้งแล้ง ให้ต้นไม้ (กระดูกอ่อน) ที่เหลืออยู่ กลับมาชุ่มชื้นและแข็งแรงอีกครั้ง

3. เรื่องการ "สร้างใหม่" (Regeneration): ถามว่าสร้างใหม่ไหม? หลักฐานจากภาพถ่าย MRI ในงานวิจัยบางชิ้น พบว่าหลังฉีด PRP ต่อเนื่อง ในคนไข้บางราย "ไม่มีการบางตัวลงของกระดูกอ่อนเพิ่มเติม" และในบางรายพบว่าผิวข้อดูเรียบเนียนขึ้น หรือมีความหนาแน่นของเนื้อเยื่อดีขึ้นเล็กน้อย

แต่หมอต้องย้ำนะครับว่า มันไม่ใช่การงอกใหม่แบบก้าวกระโดดจนข้อเข่ากลับไปเป็นเด็กอายุ 20 แต่เป็นการ "รักษาโครงสร้างเดิมไว้ให้ดีที่สุด" และ "ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอระดับจุลภาค" ให้กลับมาทำงานได้ดีครับ

คนไข้ระยะ 1-2 ที่ "ไม่ปวด" ควรฉีดไหม?

กลับมาที่คุณป้าเพ็ญที่ยังไม่ปวดเลย หมอขอแยกคำแนะนำเป็นแบบนี้ครับ

กรณีที่ 1: ไม่ปวดเลย และใช้งานทั่วไป หากเอกซเรย์เจอความเสื่อมนิดหน่อย แต่ชีวิตประจำวันปกติ ไม่เจ็บ ไม่ขัด หมอแนะนำให้เน้น "การปรับพฤติกรรม" เป็นหลักก่อนครับ เช่น การออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อรอบเข่า (Quadriceps) ให้แข็งแรง ลดน้ำหนัก (ถ้าเกินเกณฑ์) และหลีกเลี่ยงท่าทางทำร้ายเข่า เพราะร่างกายยังสมดุลดีอยู่ การฉีดเจ็บตัวเปล่าๆ อาจจะยังไม่จำเป็นที่สุดในตอนนี้ครับ

กรณีที่ 2: ไม่ปวดมาก แต่ "ใช้งานหนัก" หรือเป็นนักกีฬา กลุ่มนี้อาจจะพิจารณาฉีดได้ครับ เพื่อเป็นการ Recovery หรือฟื้นฟูสภาพหลังจากใช้งานหนักมานาน ช่วยลดโอกาสการเกิดการอักเสบซ่อนเร้น และยืดอายุการใช้งานข้อเข่าในระยะยาวได้

กรณีที่ 3: เริ่มมีอาการ "ขัดๆ" หรือเสียวแว๊บๆ (แม้ไม่ปวดตลอดเวลา) นี่คือสัญญาณเตือนครับ! ระยะนี้แหละครับที่ PRP จะได้ผลดีที่สุด คือระยะ "Early Symptomatic" หรือเริ่มมีอาการ การฉีดในช่วงนี้จะช่วยหยุดยั้งกระบวนการอักเสบตั้งแต่ต้นลม ไม่ให้ลุกลามจนกระดูกอ่อนพังเสียหาย

ขั้นตอนการรักษาด้วย PRP ที่ถูกต้อง เป็นอย่างไร?

การฉีด PRP ไม่ใช่แค่เจาะเลือดแล้วฉีดเข้าไปเฉยๆ นะครับ ความแม่นยำและเทคนิคสำคัญมาก เพื่อให้ได้ผลสูงสุด:

1. การเตรียมตัว: คนไข้ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อให้เลือดไม่ข้นเกินไป และควรงดยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs บางชนิดก่อนมาเจาะเลือด เพื่อให้เกล็ดเลือดทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

2. การเตรียม PRP: ต้องใช้ชุดอุปกรณ์ (Kit) ที่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ เป็นระบบปิด (Closed System) เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และต้องปั่นแยกให้ได้ความเข้มข้นของเกล็ดเลือดในปริมาณที่เหมาะสม (3-5 เท่าของเลือดปกติ) ถึงจะหวังผลในการรักษาได้ครับ

3. การฉีดด้วยอัลตราซาวด์ (Ultrasound Guidance): ข้อนี้สำคัญที่สุดครับ! หมอสมัยใหม่จะไม่ใช้การคลำแล้วจิ้มสุ่มๆ อีกต่อไป แต่เราจะใช้เครื่องอัลตราซาวด์สแกนดูภายในข้อเข่าขณะฉีด เพื่อนำทางเข็มให้ปลายเข็มเข้าไปอยู่ในตำแหน่ง "เป้าหมาย" อย่างแม่นยำ ไม่ไปโดนเส้นเอ็นหรือไขมัน แต่ลงไปในช่องข้อที่มีปัญหาจริงๆ เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้ตรงจุด 100% ครับ

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วขึ้น (รู้ไว้จะได้เลี่ยง)

แม้เราจะฉีด PRP ดีแค่ไหน แต่ถ้าเรายังทำร้ายเข่าอยู่ ผลลัพธ์ก็อาจจะอยู่ไม่นานครับ สิ่งที่ต้องระวังคือ:

  • น้ำหนักตัว: ทุก 1 กิโลกรัมที่เพิ่มขึ้น คือภาระของเข่ามหาศาล
  • ท่านั่ง: นั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิ นั่งยองๆ เป็นเวลานานๆ
  • การกระแทก: กีฬาที่กระโดดบ่อยๆ หรือวิ่งบนพื้นแข็งโดยรองเท้าไม่ซัพพอร์ต
  • กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง: ถ้ากล้ามเนื้อต้นขาไม่ช่วยรับน้ำหนัก ภาระทั้งหมดจะไปลงที่กระดูกอ่อนครับ

พยากรณ์โรค: ฉีดแล้วหายขาดไหม? ต้องฉีดตลอดชีวิตหรือเปล่า?

PRP ไม่ใช่ยาอมตะที่ฉีดครั้งเดียวจบตลอดชีวิตครับ

  • ผลการรักษา: โดยทั่วไป ในคนไข้ระยะเริ่มต้น การฉีด 1 คอร์ส (มักจะ 3 เข็ม ห่างกันเดือนละครั้ง หรือตามดุลยพินิจแพทย์) จะช่วยพยุงอาการและสภาพข้อเข่าได้ดีนานประมาณ 1 ปี หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
  • การติดตามผล: หากผ่านไป 1 ปี อาการยังดีอยู่ ก็แค่ดูแลตัวเองต่อ แต่ถ้าเริ่มกลับมารู้สึกขัดๆ หรือปวด ก็สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ (Booster) เพื่อกระตุ้นใหม่อีกครั้ง โดยไม่มีอันตรายสะสมเหมือนการฉีดสเตียรอยด์ครับ

สรุป

สำหรับคำถามของคุณป้าเพ็ญ หมอขอสรุปแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า:

ในข้อเข่าเสื่อมระยะเริ่มต้น (ระยะ 1-2) ที่ยังไม่ปวด PRP อาจจะยังไม่ได้จำเป็นต้องฉีดเพื่อ "สร้างกระดูกอ่อนใหม่" แบบหน้ามือเป็นหลังมือครับ แต่ PRP มีประโยชน์มากในแง่ของ "การปรับสภาพแวดล้อมในข้อเข่าให้ดีขึ้น" และ "ชะลอความเสื่อม"

หากท่านยังไม่มีอาการปวดเลย หมอแนะนำให้เริ่มจากการออกกำลังกายกล้ามเนื้อรอบเข่าและคุมน้ำหนักก่อนครับ นั่นคือยาวิเศษขนานเอก แต่ถ้าเริ่มมีอาการขัดๆ เสียวๆ หรืออยากดูแลเชิงรุกจริงๆ PRP ก็เป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ใช้เลือดตัวเอง และมีงานวิจัยรองรับว่าช่วยยืดอายุข้อเข่าได้จริงครับ

การรักษาที่ดีที่สุด คือการรักษาที่เหมาะสมกับระยะของโรคและไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนครับ ไม่ต้องกลัวที่จะปรึกษาหมอ เพื่อวางแผนการดูแลเข่าของเราให้ใช้งานได้ดีไปจนแก่เฒ่าครับ

บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่ ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง) ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ จังหวัดเชียงใหม่ สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ 📱 Line ID: @doctorkeng โทร 081-5303666

#ปวดเข่า #ข้อเข่าเสื่อม #PRPเข่า #ฉีดเลือดปั่น #รักษากระดูกทับเส้น #หมอเก่งเชียงใหม่ #ปวดข้อ #กระดูกอ่อนเสื่อม #ดูแลผู้สูงอายุ #สุขภาพกระดูก


References

  1. Belk JW, Kraeutler MJ, Houck DA, et al. Platelet-Rich Plasma Versus Hyaluronic Acid for Knee Osteoarthritis: A Systematic Review and Meta-analysis of Randomized Controlled Trials. Am J Sports Med. 2021;49(1):249-260.
  2. Southworth TM, Naveen NB, Tauro TM, et al. The Use of Platelet-Rich Plasma in Symptomatic Knee Osteoarthritis. J Knee Surg. 2019;32(1):37-45.
  3. Filardo G, Kon E, Buda R, et al. Platelet-rich plasma intra-articular knee injections for the treatment of degenerative cartilage lesions and osteoarthritis. Knee Surg Sports Traumatol Arthrosc. 2011;19(4):528-535.
  4. Taniguchi Y, Yoshioka T, Kanamori A, et al. Structural Effects of Platelet-Rich Plasma on Cartilage in Knee Osteoarthritis: A Meta-Analysis of Randomized Controlled Trials. Arthroscopy. 2024;40(2):450-462.
  5. McLellan J, Petrella RJ. Platelet-rich plasma for knee osteoarthritis: a review of the efficacy and protocols. J Sports Med Phys Fitness. 2023;63(5):789-798.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น