"เข่าเสื่อมระยะสุดท้าย" (กระดูกชนกระดูก) ฉีดเกล็ดเลือด (PRP) จะหายไหม? ... หรือแค่เสียเงินฟรี?
"หมอคะ ป้าไม่อยากผ่าตัดจริงๆ... ป้าได้ยินมาว่าเดี๋ยวนี้มีการ 'ปั่นเลือดฉีดเข่า' เพื่อนบ้านบอกว่าดีมาก ป้าเป็นระยะที่ 4 แล้ว กระดูกชนกันแล้ว ถ้ามาฉีดตัวนี้ ป้าจะกลับมาเดินได้โดยไม่ต้องผ่าตัดไหมคะ?"
นี่คือคำถามที่หมอได้ยินบ่อยมากครับ และทุกครั้งที่ได้ยิน หมอจะรู้สึกเห็นใจคนไข้จับใจ เพราะหมอรู้ดีว่าลึกๆ แล้ว "ไม่มีใครอยากเจ็บตัวผ่าตัด" ทุกคนล้วนตามหาความหวัง ตามหาวิธีที่เจ็บน้อยที่สุด
แต่ในฐานะหมอ... หน้าที่ของหมอคือการ "บอกความจริง" เพื่อให้คนไข้ได้ตัดสินใจบนพื้นฐานที่ถูกต้องและคุ้มค่าที่สุดครับ
วันนี้หมอขออนุญาตตอบคำถามนี้แบบตรงไปตรงมา ไม่ขายฝัน และอ้างอิงตามหลักการแพทย์ครับ ว่าสำหรับเข่าเสื่อมระยะสุดท้าย "เกล็ดเลือดเข้มข้น" (PRP) คือ "ฮีโร่" หรือ "ความหวังลมๆ แล้งๆ" กันแน่
ทำความเข้าใจ: ระยะที่ 4 คือ "ยางแตก ล้อบดถนน"
ก่อนอื่นต้องเข้าใจสภาพเข่าก่อนครับ
- ระยะ 1-2 (ระยะเริ่มต้น): เปรียบเหมือน "ยางรถยนต์ที่ดอกยางเริ่มสึก" แต่เนื้อยางยังเหลือเยอะ ขับได้ปกติ
- ระยะ 3 (ระยะปานกลาง): ยางสึกจนเกือบโล้น เริ่มเกาะถนนไม่ดี
- ระยะ 4 (ระยะสุดท้าย): คือ "ยางระเบิด" ครับ เนื้อยาง (กระดูกอ่อน) หลุดร่อนไปหมดแล้ว เหลือแต่ "กระทะล้อ" (กระดูกแข็ง) ที่บดลงไปบนถนนโดยตรง
- ขาจะเริ่มโก่งผิดรูป
- กระดูกงอกโปนออกมาชนกัน
- เดินแล้วเจ็บทุกก้าว เพราะไม่มีอะไรมารองรับแรงกระแทกอีกแล้ว
PRP (เกล็ดเลือดเข้มข้น) คืออะไร? เขาเข้าไปทำอะไรในเข่า?
PRP (Platelet-Rich Plasma) คือการเจาะเลือดคนไข้ มาปั่นแยกเอาเฉพาะส่วนที่มี "เกล็ดเลือด" และ "สารกระตุ้นการเติบโต" (Growth Factors) แล้วฉีดกลับเข้าไปในข้อเข่า
หน้าที่ของมันคือ "หัวหน้าช่างซ่อมบำรุง" ครับ มันจะเข้าไปตะโกนสั่งเซลล์ในร่างกายว่า "เฮ้ย! ตรงนี้มีแผลนะ ตรงนี้มีการอักเสบนะ มาช่วยกันซ่อมหน่อย เร่งสร้างเนื้อเยื่อหน่อย"
คำตอบที่เจ็บปวด: ทำไม PRP ถึง "แพ้ทาง" ระยะที่ 4?
หมอขอตอบด้วยการเปรียบเทียบง่ายๆ ครับ
ถ้าเราเอา "ปุ๋ยชั้นดี" (PRP) ไปเทลงบน "ดินที่แห้งแล้งจนกลายเป็นหิน" (เข่าระยะ 4)... ต้นไม้จะงอกไหมครับ? คำตอบคือ "ยากมาก หรือ แทบไม่ได้ผลเลย" ครับ เพราะ:
- ไม่มี "ตอ" ให้ซ่อม: PRP จะทำงานได้ดี ต้องมีเซลล์กระดูกอ่อนเดิมเหลืออยู่บ้าง เพื่อให้มันไปกระตุ้นให้แบ่งตัว แต่ในระยะ 4 กระดูกอ่อนมันหายไปหมดแล้ว เกล็ดเลือดที่ฉีดเข้าไปก็ไม่รู้จะไปกระตุ้นใครครับ
- โครงสร้างพังไปแล้ว: ระยะนี้ส่วนใหญ่ขาจะโก่ง กระดูกจะทรุดตัวผิดรูป ต่อให้ฉีดยาเทพแค่ไหน ก็ไม่สามารถ "ดัดกระดูก" ที่โก่งให้กลับมาตรงได้ แรงกดทับก็ยังมหาศาลเหมือนเดิม
- ผลลัพธ์ไม่คุ้มเงิน: การฉีด PRP มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง (หลักหมื่นบาท) งานวิจัยทั่วโลกชี้ตรงกันว่า ในคนไข้ระยะ 4 ผลการลดปวดนั้น "น้อยมาก" และ "อยู่ได้สั้นมาก" (อาจจะดีขึ้นแค่ 2-3 สัปดาห์ แล้วกลับมาปวดใหม่)
แล้วใครบ้างที่ฉีด PRP แล้วได้ผลดี?
PRP เป็นวิวัฒนาการที่ดีเยี่ยมครับ "ถ้าใช้ถูกคน" กลุ่มที่ฉีดแล้วยิ้มออก คุ้มค่าเงิน คือ:
- เข่าเสื่อมระยะ 1 - 2 (ระยะเริ่มต้น): กระดูกอ่อนยังเหลือเยอะ การฉีดจะช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดการอักเสบได้ดีมาก
- ระยะ 3 (ระยะก้ำกึ่ง): ในบางรายที่ยังไม่อยากผ่าตัด อาจพอช่วยบรรเทาอาการปวดได้บ้าง แต่ต้องไม่คาดหวังว่าจะหายขาด
ทางเลือกของ "ระยะสุดท้าย": ถ้าไม่ฉีด แล้วจะทำอย่างไร?
หมอเข้าใจครับว่าป้ากลัวผ่าตัด แต่ถ้าเป็นระยะ 4 ที่กระดูกชนกระดูกแล้ว หมออยากให้พิจารณาตามความจริงดังนี้ครับ:
ทางเลือกที่ 1: การรักษาแบบประคับประคอง (ถ้ายังไม่พร้อมผ่าจริงๆ)
- ลดน้ำหนัก: นี่คือยาที่ดีที่สุดที่ฟรีครับ ลดน้ำหนัก 1 กก. แรงกระแทกที่เข่าลดลง 4 กก.
- กายภาพบำบัด: ฝึกกล้ามเนื้อหน้าขาให้แข็งแรงสุดๆ เพื่อช่วยพยุงข้อเข่า
- ใช้เครื่องช่วยเดิน: ไม้เท้า (Cane) หรือ Walker ช่วยรับน้ำหนัก
- ยาแก้ปวด/ฉีดน้ำเลี้ยงข้อเทียม: ช่วยลดความฝืดได้ "ชั่วคราว" ดีกว่า PRP ในระยะนี้ตรงที่มันเข้าไปเคลือบผิวข้อลดแรงเสียดทาน (แต่ก็ไม่ใช่การรักษาให้หายขาด)
ทางเลือกที่ 2: ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (Total Knee Replacement)
- นี่คือ "มาตรฐานการรักษา (Gold Standard)" สำหรับระยะที่ 4 ครับ
- เป็นการ "เปลี่ยนยางเส้นใหม่" เอาผิวข้อที่พังออก แล้วใส่ผิวข้อเทียมที่เรียบลื่นเข้าไปแทน
- ข้อดี: หายปวดถาวร, ขาที่โก่งกลับมาตรง, เดินได้ไกลขึ้น กลับมาใช้ชีวิตได้เกือบปกติ
- ความน่ากลัว: สมัยนี้เทคโนโลยีดีมากครับ ผ่าตัดแผลเล็ก เจ็บน้อยลงมาก และเดินได้ตั้งแต่วันแรกหลังผ่าตัด ไม่ได้น่ากลัวเหมือน 20 ปีก่อนแล้วครับ
บทสรุป
สำหรับคำถามที่ว่า "เข่าเสื่อมระยะ 4 ฉีดเกล็ดเลือดมีโอกาสหายไหม?"
หมอขอตอบว่า "โอกาสน้อยมากๆ จนไม่แนะนำครับ" มันเหมือนการ "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" คือเสียเงินก้อนโต แต่ได้ผลลัพธ์เพียงน้อยนิดและชั่วคราว
ถ้าคุณป้าเป็นระยะที่ 4 แล้ว หมอแนะนำให้เก็บเงินส่วนที่จะฉีด PRP ไว้เป็นทุนสำหรับการดูแลตัวเอง การทำกายภาพ หรือเก็บไว้สมทบทุนในการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าในวันที่พร้อม จะเป็นการลงทุนที่ "คุ้มค่า" และ "เปลี่ยนชีวิต" ได้จริงมากกว่าครับ
หมอเป็นกำลังใจให้นะครับ ลองปรึกษาหมอกระดูกใกล้บ้าน เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะกับเราที่สุดครับ
บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่ ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง) ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ 📱 Line ID: @doctorkeng
#เข่าเสื่อมระยะ4 #ฉีดเกล็ดเลือด #PRP #เข่าเสื่อมฉีดอะไรดี #ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า #หมอเก่งกระดูกและข้อ #กลัวผ่าตัด #ปวดเข่าผู้สูงอายุ #รักษาเข่าเสื่อม #กระดูกชนกระดูก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น