วันอังคารที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2568

ปวดข้อศอก–เข่าซ้ายจากการเล่นแบดมินตัน ผู้ชายอายุ 45 ปี ควรดูแลอย่างไร?

 




ปวดข้อศอก–เข่าซ้ายจากการเล่นแบดมินตัน ผู้ชายอายุ 45 ปี ควรดูแลอย่างไร?

อาการปวดข้อศอกและเข่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เล่นแบดมินตัน วิ่ง หรือกีฬาใช้แรงระเบิดสั้น ๆ หลายครั้ง บางคนปวดเรื้อรังเป็นเดือน ใช้ยาทา–นวดก็ไม่ดีขึ้น จนเริ่มกลัวว่าจะเสื่อมก่อนวัย

กรณีนี้พบได้บ่อยมากในผู้ชายอายุ 40–50 ปี เพราะเป็นวัยที่กล้ามเนื้อเริ่มตึงง่าย ข้อต่อเริ่มเสื่อม และมักเล่นกีฬาแบบหักโหมมากกว่าการฟื้นฟูร่างกาย

เคสตัวอย่างใกล้ตัว

คุณนัท อายุ 45 ปี ชอบเล่นแบดมินตันสัปดาห์ละ 3 วัน เล่นเกมค่อนข้างหนัก ตบแรง วิ่งสไลด์ข้างบ่อย เริ่มมีอาการปวด

  • ข้อศอกขวา เจ็บเวลาเหยียดแขนหรือตีแบดแรง ๆ

  • เข่าซ้าย ปวดหน้าเข่าและเจ็บเวลาเดินลงบันได หรือหลังเล่นนาน ๆ

แม้พักเป็นบางวัน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น จึงต้องการคำแนะนำว่าควรรักษาอย่างไรและอันตรายไหม

ทำไมเล่นแบดมินตันแล้วปวดข้อศอก?

1) Tennis elbow (เส้นเอ็นข้อศอกด้านนอกอักเสบ)

แม้จะชื่อ “เทนนิส” แต่พบมากในคนเล่นแบด เพราะเกิดจากการใช้ข้อมือและท่อนแขนซ้ำ ๆ เช่น

  • การตีลูกเบียดข้อศอก

  • ตบแรง

  • บิดข้อมือซ้ำ ๆ

เส้นเอ็นที่เกาะตรงปุ่มกระดูกด้านนอกจะระคายเคืองจนปวดเวลายกของหรือเหยียดแขน

2) กล้ามเนื้อปลายแขนอ่อนแรงหรือยึดตึง

ทำให้เส้นเอ็นต้องรับแรงมากขึ้นกว่าปกติ

3) เทคนิคการตีไม่ถูกต้อง

เช่น ใช้ข้อมือมากเกินไป หรือจับไม้แน่นเกิน

ทำไมเข่าซ้ายถึงปวดจากการเล่นแบดมินตัน?

1) หมอนรองกระดูกเข่าเริ่มเสื่อม

วัย 40+ เริ่มมีการสึกของผิวข้อ เข่าอาจเจ็บเวลาลงน้ำหนักเร็ว ๆ หรือเปลี่ยนทิศทางกะทันหัน

2) เอ็นกระดูกสะบ้าด้านหน้าอักเสบ (Patellar tendinitis)

ปวดใต้สะบ้า เจ็บเวลาโดด ตบ หรือวิ่งถอยหลัง

3) กระดูกอ่อนสะบ้าเสื่อม (Chondromalacia)

เจ็บหน้าเข่าโดยเฉพาะเวลานั่งนาน ลงบันได หรือเล่นหนัก

4) กล้ามเนื้อสะโพก–ต้นขาอ่อนแรง

ทำให้แรงกระแทกลงเข่ามากกว่าปกติ

อาการที่ควรมาพบแพทย์

  • ปวดนานเกิน 2–4 สัปดาห์ไม่ดีขึ้น

  • เจ็บมากเวลาเหยียดแขน/งอข้อศอก

  • เข่าบวม ร้อน เดินกระเผลก

  • มีเสียงลั่นในข้อทุกครั้งที่ขยับ

  • เข่าหรือข้อศอกล็อก งอไม่สุด

การตรวจวินิจฉัยที่จำเป็น

1) ตรวจร่างกายโดยแพทย์

ทดสอบจุดกดเจ็บ การเคลื่อนไหว การทำงานของเส้นเอ็น และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

2) เอกซเรย์ข้อศอก–เข่า

ดูว่ามีข้อเสื่อม หินปูน หรือการบาดเจ็บของกระดูกหรือไม่

3) อัลตราซาวด์

เหมาะมากสำหรับตรวจ

  • เส้นเอ็นข้อศอกอักเสบ

  • เส้นเอ็นใต้สะบ้า

  • การอักเสบรอบข้อ

  • น้ำในข้อเข่า

เห็นชัดและเจ็บน้อย

แนวทางการรักษาแบบไม่ผ่าตัด

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ดีขึ้นด้วยการรักษาแบบประคับประคอง

1) ปรับพฤติกรรมการเล่นกีฬาก่อน

  • ลดจำนวนวันเล่นชั่วคราว

  • วอร์มอัพ 10–15 นาทีทุกครั้ง

  • ใช้รองเท้าที่รองรับแรงกระแทกดี

  • เปลี่ยนไม้แบดหรือสายที่ตึงเกินไป

2) ยา

  • ยาลดอักเสบ

  • ยาคลายกล้ามเนื้อ (ในบางราย)

3) การประคบและอุปกรณ์ช่วย

  • ประคบน้ำแข็งข้อศอก–เข่า 10–15 นาทีหลังเล่นกีฬา

  • ใส่ที่รัดข้อศอกแบบ Tennis elbow strap

  • ใส่สนับเข่าเวลาซ้อมหนัก

4) กายภาพบำบัดเฉพาะจุด

เน้น

  • ยืดกล้ามเนื้อปลายแขน

  • เสริมกล้ามเนื้อต้นขา–สะโพก

  • ฝึกกล้ามเนื้อเสถียรภาพ (Stability training)

ช่วยลดโอกาสปวดซ้ำ

5) การฉีดยาลดอักเสบด้วยอัลตราซาวด์

เหมาะสำหรับผู้ที่

  • เส้นเอ็นอักเสบมาก

  • ปวดเรื้อรังนานหลายเดือน

  • ไม่ตอบสนองต่อกายภาพหรือยา

ข้อดีคือแม่นยำ ปลอดภัย และลดอาการปวดได้เร็ว

เมื่อไหร่ต้องพิจารณาเรื่องการพักรักษาระยะยาว?

  • ปวดจนเล่นกีฬาไม่ได้เลย

  • เข่าบวมซ้ำเรื้อรัง

  • เส้นเอ็นฉีกบางส่วนจากภาพอัลตราซาวด์

  • สมรรถภาพกล้ามเนื้อลดลงมาก

แพทย์จะประเมินเป็นรายบุคคลเพื่อวางแผนฟื้นฟูที่เหมาะสม

พยากรณ์โรค

หากดูแลถูกต้อง อาการปวดข้อศอกและเข่าส่วนใหญ่ดีขึ้นภายใน 2–6 สัปดาห์ และสามารถกลับไปเล่นแบดได้ตามเดิม แต่อาจต้องเน้นการวอร์มอัพและเสริมกล้ามเนื้อให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้เป็นซ้ำ

เคล็ดลับดูแลตัวเองสำหรับนักแบดมินตันวัย 40+

  • วอร์มอัพ + ยืดเหยียดก่อนเล่นทุกครั้ง

  • เสริมกล้ามเนื้อสะโพก–ต้นขาอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2–3 วัน

  • ใช้รองเท้าที่ซัพพอร์ตดี

  • ลดการตบแรงต่อเนื่องหลายครั้ง

  • สังเกตความเจ็บ ถ้าปวดมากให้หยุดทันที

สรุป

ผู้ชายอายุ 45 ปีที่มีอาการปวดข้อศอกและเข่าจากการเล่นแบดมินตัน มักเกิดจากการอักเสบของเส้นเอ็นและข้อที่ใช้งานซ้ำ ๆ หากตรวจประเมินให้ชัดเจนและรักษาตามลำดับ ทั้งการปรับพฤติกรรม ยา กายภาพ และการฉีดยาลดอักเสบด้วยอัลตราซาวด์ อาการส่วนใหญ่ดีขึ้นได้โดยไม่ต้องหยุดกีฬาเป็นเวลานาน

บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่
ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง)
ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ
สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ
📱 Line ID: @doctorkeng โทร 081-5303666

#ปวดข้อศอก #ปวดเข่า #เล่นแบดมินตันเจ็บ #TennisElbow #เอ็นสะบ้าอักเสบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น