วันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568

เข่าบวมเป่ง ปวดจนเดินกะเผลก แต่ทำไมผลเอ็กซเรย์บอกว่า "ยังเสื่อมไม่เยอะ"? ความลับที่ฟิล์มเอ็กซเรย์ไม่ได้บอกคุณ

เข่าบวมเป่ง ปวดจนเดินกะเผลก แต่ทำไมผลเอ็กซเรย์บอกว่า "ยังเสื่อมไม่เยอะ"? ความลับที่ฟิล์มเอ็กซเรย์ไม่ได้บอกคุณ

"หมอครับ ดูฟิล์มให้ผมหน่อย ข้างขวานี่กระดูกชนกันจนมิดแล้ว แต่ผมไม่ปวดเลยนะ เดินปร๋อ แต่ข้างซ้ายนี่สิครับ หมอบอกว่าเสื่อมนิดหน่อย แต่ทำไมมันปวดทรมานขนาดนี้ บวมแดง ร้อนผ่าว นั่งพับเพียบไม่ได้เลย สรุปผมเป็นอะไรกันแน่ครับ?"

นี่คือคำถามยอดฮิตจากคุณลุงวิชัย (นามสมมติ) วัย 65 ปี ที่เดินถือซองฟิล์มเอ็กซเรย์เข้ามาด้วยสีหน้าสงสัยแกมท้อแท้

หลายคนเข้าใจผิดว่า "กระดูกยิ่งเสื่อมมาก ยิ่งต้องปวดมาก" แต่ความจริงในโลกของโรคข้อเข่าเสื่อม มันไม่ได้ตรงไปตรงมาแบบนั้นเสมอไปครับ บางคนกระดูกชนกันแต่เดินขึ้นเขาได้สบาย ในขณะที่บางคนเสื่อมแค่ระยะเริ่มต้นกลับเดินแทบไม่ได้

วันนี้หมอจะมาไขปริศนานี้ให้ฟังครับ ว่าทำไม "ภาพที่เห็น" (X-ray) กับ "สิ่งที่เป็น" (อาการปวด) ถึงสวนทางกัน และเราจะจัดการกับเข่าที่บวมเป่งนี้อย่างไร

ความจริงข้อที่ 1: "ความปวด" ไม่ได้มาจาก "กระดูกชนกัน" เพียงอย่างเดียว

ลองจินตนาการถึง "กองไฟ" ครับ

  • เข่าที่เสื่อมมากแต่ไม่ปวด: เหมือน "ถ่านที่มอดแล้ว" กระดูกอาจจะพังรูปร่างเปลี่ยนไปแล้ว แต่ร่างกายปรับตัวได้แล้ว ไม่มีการอักเสบ จึงไม่ปวด
  • เข่าที่เสื่อมน้อยแต่ปวดมาก: เหมือน "กองไฟที่กำลังลุกโชน" แม้ฟืน (กระดูก) จะยังดูดีอยู่ แต่ไฟ (การอักเสบ) กำลังเผาผลาญเยื่อบุข้อ มีน้ำท่วมข้อ ทำให้ปวดบวมทรมานครับ

ดังนั้น ตัวการร้ายจริงๆ ที่ทำให้คุณลุงวิชัยปวดข้างซ้าย ไม่ใช่ความเสื่อมของกระดูก แต่คือ **"เยื่อบุข้ออักเสบ" (Synovitis)**และ "น้ำไขข้อที่ผิดปกติ" ต่างหากครับ

โรคข้อเข่าเสื่อม คืออะไรกันแน่? (ฉบับเข้าใจง่าย)

โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) คือภาวะที่ "กระดูกอ่อน" ผิวข้อ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนโช้คอัพเคลือบเงาๆ สึกหรอหลุดล่อนออกไป ทำให้กระดูกแข็งๆ มาเสียดสีกัน

กระบวนการเกิดโรค:

  1. ผิวกระดูกอ่อนเริ่มยุ่ย: จากการใช้งานหนัก อายุ หรือน้ำหนักตัว
  2. เศษกระดูกหลุดลอย: ร่างกายมองเห็นเศษพวกนี้เป็นสิ่งแปลกปลอม
  3. เกิดการอักเสบ: เยื่อบุข้อสร้างน้ำออกมาเยอะๆ เพื่อชะล้างสิ่งสกปรก ทำให้ "เข่าบวม"
  4. ปวดและตึง: น้ำที่ดันอยู่ข้างในทำให้ข้อตึง งอไม่ได้ และสารเคมีจากการอักเสบก็กระตุ้นเส้นประสาทให้ปวดจี๊ด

ปัจจัยเสี่ยง: ใครบ้างที่ต้องระวัง?

  • น้ำหนักตัว: ยิ่งหนัก เข่ายิ่งรับภาระ เหมือนรถบรรทุกที่บรรทุกของเกินพิกัดตลอดเวลา
  • อายุ: วัย 50+ น้ำหล่อเลี้ยงเข่าเริ่มแห้ง คุณภาพเริ่มแย่ลง
  • เคยบาดเจ็บ: ใครที่เคยเอ็นฉีก หมอนรองกระดูกแตกตอนหนุ่มสาว เข่าจะเสื่อมเร็วกว่าคนอื่น
  • กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง: ถ้ากล้ามเนื้อต้นขาไม่แข็งแรง แรงกระแทกจะลงไปที่กระดูกข้อเข่าโดยตรง

การตรวจวินิจฉัย: ทำไมต้องดูมากกว่า X-ray?

  • เอกซเรย์ (X-ray): บอกได้แค่ "โครงสร้างกระดูก" ว่าช่องว่างแคบไหม มีหินปูนเกาะไหม แต่ไม่เห็นน้ำ ไม่เห็นเนื้อเยื่ออักเสบ
  • การตรวจร่างกาย: หมอจะคลำดูว่าเข่าอุ่นไหม (แสดงว่าอักเสบ) กดเจ็บตรงไหน และลองโยกเข่าดูความมั่นคง
  • อัลตราซาวนด์ (Ultrasound): นี่คือเครื่องมือไม้ตายของหมอครับ! อัลตราซาวนด์จะช่วยให้เห็น "น้ำในข้อ" และ "เยื่อบุข้อที่หนาตัว" (Synovitis) ได้ชัดเจน ซึ่งช่วยตอบคำถามได้ว่าทำไมข้างที่ดูปกติดี ถึงปวดมากครับ

แนวทางการรักษา: จัดการไฟที่กำลังไหม้

เป้าหมายแรกคือ "ดับไฟ (ลดอักเสบ)" ไม่ใช่แค่กินยาแก้ปวดไปวันๆ ครับ

1. ปรับพฤติกรรม (ลดเชื้อเพลิง)

  • ลดน้ำหนัก: ลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ลดแรงกระแทกที่เข่าได้ 4 กิโลกรัม!
  • เลี่ยงท่านั่ง: งดนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ คุกเข่า หรือนั่งยองๆ เพราะแรงดันในข้อจะสูงมาก
  • ประคบ:
    • ปวดบวมแดงร้อน (อักเสบใหม่ๆ): ประคบเย็น
    • ปวดตึงเรื้อรัง ไม่มีบวมแดง: ประคบอุ่น

2. การรักษาด้วยยาและหัตถการ

  • ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs): ช่วยลดปวดบวมได้ดี แต่ต้องระวังโรคกระเพาะและไต
  • เจาะดูดน้ำออก (Aspiration): ถ้าเข่าบวมเต่งมาก การดูดน้ำออกจะช่วยลดแรงดัน คนไข้จะรู้สึกโล่งทันที พับเข่าได้มากขึ้น
  • ฉีดยา:
    • สเตียรอยด์: ใช้ฉีดเพื่อ "ดับไฟ" ลดอักเสบเฉียบพลัน (ไม่ควรฉีดบ่อยเกินไป)
    • น้ำเลี้ยงข้อเทียม (Hyaluronic Acid): เหมือนเติมน้ำมันเครื่อง ช่วยหล่อลื่น ลดเสียดสี
    • เกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP): ใช้ซ่อมแซมและลดการอักเสบในระยะยาว

3. การผ่าตัด (Surgery) จะทำก็ต่อเมื่อ รักษาทุกวิธีแล้วไม่หาย หรือขาโก่งผิดรูปมากจนเดินไม่ได้จริงๆ ครับ

ท่าบริหาร: สร้างเกราะป้องกันเข่า

เมื่อหายปวดแล้ว เน้นนะครับ ต้องรอให้หายปวดก่อน ต้องสร้างกล้ามเนื้อหน้าขา (Quadriceps) ให้แข็งแรง เพื่อทำหน้าที่รับน้ำหนักแทนเข่าครับ

  1. ท่าเกร็งกดเข่า (Quad Setting):
    • นั่งเหยียดขา เอาผ้าขนหนูม้วนรองใต้ข้อพับเข่า
    • เกร็งเข่ากดผ้าให้จมลงไป นับ 1-10 แล้วคลาย
    • ทำ 20 ครั้ง เช้า-เย็น
  2. ท่ายกขา (Straight Leg Raise):
    • นอนหงาย ชันเข่าข้างดีขึ้น
    • ขาข้างที่เจ็บเหยียดตรง เกร็งหน้าขาแล้วยกขึ้นสูงประมาณ 1 ฟุต
    • ค้างไว้ 10 วินาที แล้ววางลงช้าๆ
    • ทำ 20 ครั้งต่อชุด

พยากรณ์โรค: จะกลับมาเดินปร๋อได้ไหม?

สำหรับคุณลุงวิชัย และท่านผู้อ่านที่เป็นเข่าเสื่อม หมอขอให้กำลังใจครับว่า "เข่าเสื่อม รักษาให้หายปวดได้"

แม้เราจะเปลี่ยนเข่าให้กลับไปเป็นหนุ่มสาวไม่ได้ แต่ถ้าเราดับการอักเสบได้ ลดน้ำหนักได้ และบริหารกล้ามเนื้อจนแข็งแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับมาเดิน เที่ยว และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องผ่าตัดครับ

สรุป

อย่าตัดสินอาการปวดด้วยภาพเอ็กซเรย์เพียงอย่างเดียวครับ อาการ "เข่าบวม ปวด ร้อน" คือสัญญาณของการอักเสบที่ต้องรีบรักษา ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้เพราะเห็นว่ากระดูกยังดูดี

ถ้ารักษาถูกจุด ดับไฟถูกที่ เข่าของคุณก็จะกลับมาใช้งานได้ดีอีกครั้งครับ


บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่ ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง) ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ จังหวัดเชียงใหม่ สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ 📱 Line ID: @doctorkeng โทร 081-5303666

#ปวดเข่า #เข่าเสื่อม #เข่าบวม #น้ำในข้อเข่า #เอ็กซเรย์เข่า #หมอเก่งกระดูกและข้อ #ฉีดยาเข่า #ปวดเข่าแต่เอ็กซเรย์ปกติ #บริหารเข่า #Synovitis

References

  1. Bedson J, Croft PR. The discordance between clinical and radiographic knee osteoarthritis: a systematic search and summary of the literature. BMC Musculoskelet Disord. 2008;9:116.
  2. Hunter DJ, McDougall JJ, Keefe FJ. The symptoms of osteoarthritis and the genesis of pain. Rheum Dis Clin North Am. 2008;34(3):623-643.
  3. Mathiessen A, Conaghan PG. Synovitis in osteoarthritis: current understanding with therapeutic implications. Arthritis Res Ther. 2017;19(1):18.
  4. Bannuru RR, et al. OARSI guidelines for the non-surgical management of knee, hip, and polyarticular osteoarthritis. Osteoarthritis Cartilage. 2019;27(11):1578-1606.
  5. Fransen M, et al. Exercise for osteoarthritis of the knee. Cochrane Database Syst Rev. 2015;(1):CD004376.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น