เข่าบวมเป่ง ปวดจนเดินกะเผลก แต่ทำไมผลเอ็กซเรย์บอกว่า "ยังเสื่อมไม่เยอะ"? ความลับที่ฟิล์มเอ็กซเรย์ไม่ได้บอกคุณ
"หมอครับ ดูฟิล์มให้ผมหน่อย ข้างขวานี่กระดูกชนกันจนมิดแล้ว แต่ผมไม่ปวดเลยนะ เดินปร๋อ แต่ข้างซ้ายนี่สิครับ หมอบอกว่าเสื่อมนิดหน่อย แต่ทำไมมันปวดทรมานขนาดนี้ บวมแดง ร้อนผ่าว นั่งพับเพียบไม่ได้เลย สรุปผมเป็นอะไรกันแน่ครับ?"
นี่คือคำถามยอดฮิตจากคุณลุงวิชัย (นามสมมติ) วัย 65 ปี ที่เดินถือซองฟิล์มเอ็กซเรย์เข้ามาด้วยสีหน้าสงสัยแกมท้อแท้
หลายคนเข้าใจผิดว่า "กระดูกยิ่งเสื่อมมาก ยิ่งต้องปวดมาก" แต่ความจริงในโลกของโรคข้อเข่าเสื่อม มันไม่ได้ตรงไปตรงมาแบบนั้นเสมอไปครับ บางคนกระดูกชนกันแต่เดินขึ้นเขาได้สบาย ในขณะที่บางคนเสื่อมแค่ระยะเริ่มต้นกลับเดินแทบไม่ได้
วันนี้หมอจะมาไขปริศนานี้ให้ฟังครับ ว่าทำไม "ภาพที่เห็น" (X-ray) กับ "สิ่งที่เป็น" (อาการปวด) ถึงสวนทางกัน และเราจะจัดการกับเข่าที่บวมเป่งนี้อย่างไร
ความจริงข้อที่ 1: "ความปวด" ไม่ได้มาจาก "กระดูกชนกัน" เพียงอย่างเดียว
ลองจินตนาการถึง "กองไฟ" ครับ
- เข่าที่เสื่อมมากแต่ไม่ปวด: เหมือน "ถ่านที่มอดแล้ว" กระดูกอาจจะพังรูปร่างเปลี่ยนไปแล้ว แต่ร่างกายปรับตัวได้แล้ว ไม่มีการอักเสบ จึงไม่ปวด
- เข่าที่เสื่อมน้อยแต่ปวดมาก: เหมือน "กองไฟที่กำลังลุกโชน" แม้ฟืน (กระดูก) จะยังดูดีอยู่ แต่ไฟ (การอักเสบ) กำลังเผาผลาญเยื่อบุข้อ มีน้ำท่วมข้อ ทำให้ปวดบวมทรมานครับ
ดังนั้น ตัวการร้ายจริงๆ ที่ทำให้คุณลุงวิชัยปวดข้างซ้าย ไม่ใช่ความเสื่อมของกระดูก แต่คือ **"เยื่อบุข้ออักเสบ" (Synovitis)**และ "น้ำไขข้อที่ผิดปกติ" ต่างหากครับ
โรคข้อเข่าเสื่อม คืออะไรกันแน่? (ฉบับเข้าใจง่าย)
โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis) คือภาวะที่ "กระดูกอ่อน" ผิวข้อ ซึ่งทำหน้าที่เหมือนโช้คอัพเคลือบเงาๆ สึกหรอหลุดล่อนออกไป ทำให้กระดูกแข็งๆ มาเสียดสีกัน
กระบวนการเกิดโรค:
- ผิวกระดูกอ่อนเริ่มยุ่ย: จากการใช้งานหนัก อายุ หรือน้ำหนักตัว
- เศษกระดูกหลุดลอย: ร่างกายมองเห็นเศษพวกนี้เป็นสิ่งแปลกปลอม
- เกิดการอักเสบ: เยื่อบุข้อสร้างน้ำออกมาเยอะๆ เพื่อชะล้างสิ่งสกปรก ทำให้ "เข่าบวม"
- ปวดและตึง: น้ำที่ดันอยู่ข้างในทำให้ข้อตึง งอไม่ได้ และสารเคมีจากการอักเสบก็กระตุ้นเส้นประสาทให้ปวดจี๊ด
ปัจจัยเสี่ยง: ใครบ้างที่ต้องระวัง?
- น้ำหนักตัว: ยิ่งหนัก เข่ายิ่งรับภาระ เหมือนรถบรรทุกที่บรรทุกของเกินพิกัดตลอดเวลา
- อายุ: วัย 50+ น้ำหล่อเลี้ยงเข่าเริ่มแห้ง คุณภาพเริ่มแย่ลง
- เคยบาดเจ็บ: ใครที่เคยเอ็นฉีก หมอนรองกระดูกแตกตอนหนุ่มสาว เข่าจะเสื่อมเร็วกว่าคนอื่น
- กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง: ถ้ากล้ามเนื้อต้นขาไม่แข็งแรง แรงกระแทกจะลงไปที่กระดูกข้อเข่าโดยตรง
การตรวจวินิจฉัย: ทำไมต้องดูมากกว่า X-ray?
- เอกซเรย์ (X-ray): บอกได้แค่ "โครงสร้างกระดูก" ว่าช่องว่างแคบไหม มีหินปูนเกาะไหม แต่ไม่เห็นน้ำ ไม่เห็นเนื้อเยื่ออักเสบ
- การตรวจร่างกาย: หมอจะคลำดูว่าเข่าอุ่นไหม (แสดงว่าอักเสบ) กดเจ็บตรงไหน และลองโยกเข่าดูความมั่นคง
- อัลตราซาวนด์ (Ultrasound): นี่คือเครื่องมือไม้ตายของหมอครับ! อัลตราซาวนด์จะช่วยให้เห็น "น้ำในข้อ" และ "เยื่อบุข้อที่หนาตัว" (Synovitis) ได้ชัดเจน ซึ่งช่วยตอบคำถามได้ว่าทำไมข้างที่ดูปกติดี ถึงปวดมากครับ
แนวทางการรักษา: จัดการไฟที่กำลังไหม้
เป้าหมายแรกคือ "ดับไฟ (ลดอักเสบ)" ไม่ใช่แค่กินยาแก้ปวดไปวันๆ ครับ
1. ปรับพฤติกรรม (ลดเชื้อเพลิง)
- ลดน้ำหนัก: ลดน้ำหนัก 1 กิโลกรัม ลดแรงกระแทกที่เข่าได้ 4 กิโลกรัม!
- เลี่ยงท่านั่ง: งดนั่งพับเพียบ ขัดสมาธิ คุกเข่า หรือนั่งยองๆ เพราะแรงดันในข้อจะสูงมาก
- ประคบ:
- ปวดบวมแดงร้อน (อักเสบใหม่ๆ): ประคบเย็น
- ปวดตึงเรื้อรัง ไม่มีบวมแดง: ประคบอุ่น
2. การรักษาด้วยยาและหัตถการ
- ยาต้านการอักเสบ (NSAIDs): ช่วยลดปวดบวมได้ดี แต่ต้องระวังโรคกระเพาะและไต
- เจาะดูดน้ำออก (Aspiration): ถ้าเข่าบวมเต่งมาก การดูดน้ำออกจะช่วยลดแรงดัน คนไข้จะรู้สึกโล่งทันที พับเข่าได้มากขึ้น
- ฉีดยา:
- สเตียรอยด์: ใช้ฉีดเพื่อ "ดับไฟ" ลดอักเสบเฉียบพลัน (ไม่ควรฉีดบ่อยเกินไป)
- น้ำเลี้ยงข้อเทียม (Hyaluronic Acid): เหมือนเติมน้ำมันเครื่อง ช่วยหล่อลื่น ลดเสียดสี
- เกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP): ใช้ซ่อมแซมและลดการอักเสบในระยะยาว
3. การผ่าตัด (Surgery) จะทำก็ต่อเมื่อ รักษาทุกวิธีแล้วไม่หาย หรือขาโก่งผิดรูปมากจนเดินไม่ได้จริงๆ ครับ
ท่าบริหาร: สร้างเกราะป้องกันเข่า
เมื่อหายปวดแล้ว เน้นนะครับ ต้องรอให้หายปวดก่อน ต้องสร้างกล้ามเนื้อหน้าขา (Quadriceps) ให้แข็งแรง เพื่อทำหน้าที่รับน้ำหนักแทนเข่าครับ
- ท่าเกร็งกดเข่า (Quad Setting):
- นั่งเหยียดขา เอาผ้าขนหนูม้วนรองใต้ข้อพับเข่า
- เกร็งเข่ากดผ้าให้จมลงไป นับ 1-10 แล้วคลาย
- ทำ 20 ครั้ง เช้า-เย็น
- ท่ายกขา (Straight Leg Raise):
- นอนหงาย ชันเข่าข้างดีขึ้น
- ขาข้างที่เจ็บเหยียดตรง เกร็งหน้าขาแล้วยกขึ้นสูงประมาณ 1 ฟุต
- ค้างไว้ 10 วินาที แล้ววางลงช้าๆ
- ทำ 20 ครั้งต่อชุด
พยากรณ์โรค: จะกลับมาเดินปร๋อได้ไหม?
สำหรับคุณลุงวิชัย และท่านผู้อ่านที่เป็นเข่าเสื่อม หมอขอให้กำลังใจครับว่า "เข่าเสื่อม รักษาให้หายปวดได้"
แม้เราจะเปลี่ยนเข่าให้กลับไปเป็นหนุ่มสาวไม่ได้ แต่ถ้าเราดับการอักเสบได้ ลดน้ำหนักได้ และบริหารกล้ามเนื้อจนแข็งแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถกลับมาเดิน เที่ยว และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องผ่าตัดครับ
สรุป
อย่าตัดสินอาการปวดด้วยภาพเอ็กซเรย์เพียงอย่างเดียวครับ อาการ "เข่าบวม ปวด ร้อน" คือสัญญาณของการอักเสบที่ต้องรีบรักษา ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้เพราะเห็นว่ากระดูกยังดูดี
ถ้ารักษาถูกจุด ดับไฟถูกที่ เข่าของคุณก็จะกลับมาใช้งานได้ดีอีกครั้งครับ
บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์ สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่ ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง) ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ จังหวัดเชียงใหม่ สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ 📱 Line ID: @doctorkeng โทร 081-5303666
#ปวดเข่า #เข่าเสื่อม #เข่าบวม #น้ำในข้อเข่า #เอ็กซเรย์เข่า #หมอเก่งกระดูกและข้อ #ฉีดยาเข่า #ปวดเข่าแต่เอ็กซเรย์ปกติ #บริหารเข่า #Synovitis
References
- Bedson J, Croft PR. The discordance between clinical and radiographic knee osteoarthritis: a systematic search and summary of the literature. BMC Musculoskelet Disord. 2008;9:116.
- Hunter DJ, McDougall JJ, Keefe FJ. The symptoms of osteoarthritis and the genesis of pain. Rheum Dis Clin North Am. 2008;34(3):623-643.
- Mathiessen A, Conaghan PG. Synovitis in osteoarthritis: current understanding with therapeutic implications. Arthritis Res Ther. 2017;19(1):18.
- Bannuru RR, et al. OARSI guidelines for the non-surgical management of knee, hip, and polyarticular osteoarthritis. Osteoarthritis Cartilage. 2019;27(11):1578-1606.
- Fransen M, et al. Exercise for osteoarthritis of the knee. Cochrane Database Syst Rev. 2015;(1):CD004376.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น