# กระดูกอ่อนลูกสะบ้าเสื่อม ปวดหน้าเข่า เดินขึ้นบันไดแล้วเจ็บ ทำไมถึงเป็น และรักษาอย่างไร
หลายคนเริ่มมีอาการปวดหน้าเข่าเวลานั่งนาน เดินขึ้นลงบันได หรือเวลาลุกจากเก้าอี้จะได้ยินเสียง “ดังกรอบแกรบ” บางคนบอกว่าปวดลึกอยู่หลังลูกสะบ้า เหมือนมีอะไรเสียด ๆ อยู่ข้างใน อาการแบบนี้มักเป็นสัญญาณของ “กระดูกอ่อนลูกสะบ้าเสื่อม” หรือภาวะ Patellofemoral Joint Arthritis ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของ “ปวดเข่าด้านหน้าเรื้อรัง” ที่พบได้มากในวัยทำงานและผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้หญิงครับ
## ทำไมถึงเกิดกระดูกอ่อนลูกสะบ้าเสื่อม
ลูกสะบ้า (Patella) คือกระดูกเล็ก ๆ ด้านหน้าหัวเข่า ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มแรงพยุงเวลางอหรือเหยียดเข่า โดยกลไกตามธรรมชาติ ลูกสะบ้าจะเลื่อนขึ้นลงบนร่องของกระดูกต้นขาเมื่อเราขยับเข่า ถ้าแรงกดไม่สมดุล หรือกระดูกอ่อนผิวสัมผัสเริ่มสึก จะเกิดการเสียดสีจนกระดูกอ่อนค่อย ๆ บางและแตก เป็นจุดเริ่มต้นของโรคนี้
สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่
- การใช้งานซ้ำ ๆ เช่น วิ่ง เดินขึ้นลงบันได หรือคุกเข่าบ่อย
- ท่าทางผิดสมดุล โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าขาและสะโพกอ่อนแรง ทำให้ลูกสะบ้าเคลื่อนไม่ตรงแนว
- น้ำหนักตัวมาก เพิ่มแรงกดต่อข้อเข่า
- อุบัติเหตุหรือกระแทกเข่าในอดีต ทำให้กระดูกอ่อนเสียหาย
- ภาวะข้อเข่าเสื่อมทั่วไป เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกอ่อนทั่วข้อบางลงตามวัย
## อาการที่ควรสังเกต
- ปวดหน้าเข่าลึก ๆ โดยเฉพาะเวลานั่งนานแล้วลุก หรือเดินขึ้นลงบันได
- ปวดเวลานั่งพับเข่าหรือนั่งยอง ๆ
- ได้ยินเสียง “กรอบแกรบ” หรือ “ลั่น” ภายในเข่าเวลาขยับ
- ในรายที่เป็นมาก อาจมีบวมเล็กน้อยรอบลูกสะบ้า และรู้สึกอ่อนแรงตอนเหยียดขา
จุดสังเกตสำคัญ: หากปวดหน้าเข่าแต่ยังเดินลงน้ำหนักได้ปกติ ไม่มีบวมมาก มักเข้ากับภาวะกระดูกอ่อนลูกสะบ้าเสื่อม มากกว่าข้อเข่าเสื่อมเต็มข้อ
## การวินิจฉัย
แพทย์จะเริ่มจากการซักประวัติอาการ ตรวจการเคลื่อนไหวของลูกสะบ้า และทดสอบแรงกดที่ผิวข้อหน้าเข่า หากกดแล้วเจ็บหรือมีเสียงฝืดมักบ่งบอกว่ากระดูกอ่อนเริ่มสึก
การตรวจเพิ่มเติมที่ช่วยยืนยันได้ ได้แก่:
- เอกซเรย์เข่า (Patellofemoral view) เพื่อดูช่องข้อและแนวเคลื่อนไหวของลูกสะบ้า
- MRI เข่า ใช้ดูความหนาและรอยสึกของกระดูกอ่อนโดยละเอียด รวมถึงการอักเสบของเยื่อบุข้อรอบ ๆ
## แนวทางการรักษา
### 1. รักษาแบบไม่ผ่าตัด (ได้ผลดีในระยะต้น)
- ปรับพฤติกรรมการใช้งาน: หลีกเลี่ยงการนั่งยอง ๆ คุกเข่า หรือขึ้นลงบันไดบ่อย ๆ
- ลดน้ำหนัก: ทุก ๆ 1 กิโลกรัมที่ลดได้ ลดแรงกดบนข้อเข่ากว่า 3–4 กิโลกรัม
- กายภาพบำบัด: เน้นเสริมความแข็งแรงกล้ามเนื้อหน้าขา (Quadriceps) และสะโพก เพื่อให้ลูกสะบ้าเคลื่อนได้ตรงแนว
- ประคบร้อนและยืดกล้ามเนื้อ วันละ 10–15 นาที ช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ตึงรอบเข่า
- ยาและเจลลดอักเสบเฉพาะที่ ช่วยบรรเทาอาการปวดในช่วงกำเริบ
### 2. การฉีดยาเฉพาะที่
- ฉีดยาหล่อลื่นข้อ (Hyaluronic acid) ช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวและลดแรงเสียดสีภายในข้อ
- ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) กระตุ้นการซ่อมแซมของกระดูกอ่อนในรายที่ยังไม่สึกมาก
- ฉีดยาสเตียรอยด์ ใช้ในกรณีปวดบวมชัด แต่ควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางและไม่บ่อย
### 3. การผ่าตัด (สำหรับกรณีที่รักษาอนุรักษ์ไม่ได้ผล)
- ส่องกล้องข้อเข่า (Arthroscopy) เพื่อล้างผิวข้อและเก็บเศษกระดูกอ่อนที่แตกหลุด
- ผ่าตัดจัดแนวลูกสะบ้าใหม่ (Realignment surgery) ในรายที่ลูกสะบ้าเคลื่อนผิดแนวรุนแรง
- ผ่าตัดเปลี่ยนผิวข้อบางส่วน (Partial knee replacement) เมื่อกระดูกอ่อนสึกมากเฉพาะด้านหน้าเข่า
## ฟื้นฟูและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก
- ออกกำลังกายเสริมกล้ามเนื้อหน้าขาและสะโพก เช่น ท่า Straight Leg Raise, Side-lying leg lift, Bridge
- ยืดกล้ามเนื้อหลังต้นขา (Hamstring stretch) และกล้ามเนื้อน่อง (Calf stretch) ทุกวัน
- เลือกรองเท้าพื้นนุ่มที่รับแรงกระแทกได้ดี
- เดิน ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยานเบา ๆ เป็นประจำ 3–4 วัน/สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงน้ำหนักตัวเกิน เพราะเป็นตัวเร่งให้กระดูกอ่อนสึกเร็ว
## สรุป
กระดูกอ่อนลูกสะบ้าเสื่อมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคนวัยทำงานและผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ต้องขึ้นลงบันไดหรือนั่งพับเพียบบ่อย ๆ แม้จะไม่อันตราย แต่หากปล่อยไว้นานจะปวดเรื้อรังและเคลื่อนไหวลำบากได้ การดูแลตั้งแต่ระยะแรกด้วยการเสริมกล้ามเนื้อ ปรับพฤติกรรม และลดแรงกดต่อข้อเข่า จะช่วยให้เข่ากลับมาแข็งแรงและใช้งานได้อย่างมั่นใจอีกครั้งครับ
บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่
ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง)
ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ
สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ
📱 Line ID: @doctorkeng โทร 081-5303666
#ปวดหน้าเข่า #กระดูกอ่อนลูกสะบ้าเสื่อม #ข้อเข่าเสื่อม #PFJointArthritis #หมอเก่ง #สุขภาพข้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น