
ปวดเข่า เข่าเสื่อมระยะที่ 1–2 รักษาอย่างไร? ทำอะไรได้บ้างเพื่อชะลอไม่ให้เสื่อมเพิ่ม
หลายคนเริ่มมีอาการปวดเข่าเวลาเดิน ลุกนั่งแล้วเจ็บจี๊ด มีเสียงกรอบแกรบในเข่า และหมอบอกว่าเป็น “เข่าเสื่อมระยะต้น” หรือระยะ 1–2 ซึ่งมักทำให้หลายคนกังวลว่าจะต้องผ่าตัดไหม หรือจะเสื่อมเร็วขึ้นหรือไม่
หมออยากบอกว่า… เข่าเสื่อมระยะ 1–2 เป็นช่วงที่รักษาได้ดีมาก และป้องกันไม่ให้ลุกลามได้จริง ถ้ารู้วิธีดูแลที่เหมาะสมครับ
บทความนี้หมอเขียนให้เข้าใจง่าย ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติได้ทันที
เหตุการณ์จากคนไข้ใกล้ตัว
คุณศศิ อายุ 49 ปี เป็นแม่บ้านที่ต้องเดินขึ้นลงบันไดและยืนทำครัวทุกวัน เธอเริ่มปวดเข่าด้านใน ลุกขึ้นจากพื้นแล้วเจ็บจี๊ด ไปตรวจเอกซเรย์พบว่าเป็น เข่าเสื่อมระยะ 2
เธอถามหมอด้วยความตกใจว่า
“หมอคะ แบบนี้ต้องฉีดหรือผ่าตัดเลยไหมคะ หนูกลัวเข่าจะพังเร็ว”
หลังหมอประเมิน หมอบอกว่า “ยังไม่ต้องนะครับ ระยะต้นแบบนี้ดูแลดี ๆ กลับมาเดินคล่องได้เหมือนเดิม” เพียงปรับท่าในการใช้งาน ลดน้ำหนักเล็กน้อย และทำกายภาพอย่างสม่ำเสมอ ตอนนี้อาการของเธอดีขึ้นมาก เดินทำงานบ้านได้ตามปกติ
หมอจึงอยากแบ่งปันความรู้เพื่อให้ทุกคนที่กำลังกังวลได้เข้าใจแบบเดียวกันครับ
เข่าเสื่อมระยะที่ 1–2 คืออะไร?
คือช่วงที่กระดูกอ่อนเริ่มสึกเพียงเล็กน้อย ผิวข้อเริ่มไม่เรียบ แต่โครงสร้างข้อยังดีมาก ช่องข้อยังไม่แคบจนผิดรูป และกระดูกยังไม่งอกผิดลักษณะ
อาการที่มักพบ:
- ปวดเข่าเวลาเดินไกล ๆ หรือลุกนั่ง
- เจ็บด้านหน้าเข่าหรือด้านในเข่า
- มีเสียงกรอบแกรบเวลาเคลื่อนไหว
- รู้สึกตึงเข่าตอนเช้าแต่ดีขึ้นเมื่อขยับ
- เดินลงบันไดแล้วเจ็บมากกว่าเดินขึ้น
ช่วงนี้ถือว่าเป็น “ช่วงทองของการรักษา” เพราะยังชะลอได้ดีมากครับ
วิธีรักษาเข่าเสื่อมระยะ 1–2 ที่ได้ผลจริง
1) ปรับพฤติกรรมการใช้งานเข่า (สำคัญที่สุด)
- หลีกเลี่ยงนั่งยอง ๆ
- งดนั่งพับเพียบ / ขัดสมาธินาน ๆ
- หลีกเลี่ยงขึ้นลงบันไดบ่อย
- ไม่ยืนค้างนานเกิน 45–60 นาที
การลดแรงกดที่ข้อเข่า ช่วยลดปวดได้มากกว่าที่คิดครับ
2) เสริมกล้ามเนื้อรอบเข่าให้แข็งแรง
กล้ามเนื้อหน้าขาและสะโพกเป็น “ตัวรับแรงแทนข้อเข่า” ยิ่งแข็งแรง เข่ายิ่งเจ็บน้อย
ท่าที่ควรทำทุกวัน:
- เหยียดเข่าตรงค้าง 10 วินาที (Straight Leg Raise)
- เกร็งหน้าขา 10 วินาที (Quadriceps set)
- ยกขาไปด้านข้างให้สะโพกแข็งแรง (Hip abduction)
- ปั่นจักรยานเบา ๆ 10–20 นาที
- ว่ายน้ำ
เพียง 10 นาทีต่อวัน อาการดีขึ้นอย่างชัดเจนครับ
3) ควบคุมน้ำหนักตัว
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 1 กิโลกรัม = แรงกดเข่ามากขึ้น 3–5 กิโลกรัม
ลดน้ำหนักเพียง 3–5 กิโลกรัม อาการปวดดีขึ้นมากในหลายคน
4) ประคบเย็น เพื่อลดตึงและลดปวด
เหมาะกับผู้ที่ปวดเมื่อล้า หรือรู้สึกเข่าตึงหลังใช้งาน
ประคบเย็น 10–15 นาที วันละ 1–2 ครั้ง
5) ใช้ยาทา / ยากินเฉพาะช่วงที่ปวดมาก
แพทย์อาจแนะนำ:
- ยาทาแก้ปวด
- ยาคลายกล้ามเนื้อ
- ยาลดอักเสบเฉพาะช่วงอาการมาก
ไม่ควรกินยาต่อเนื่องโดยไม่ปรึกษาแพทย์ครับ
6) ฉีดยาลดอักเสบหรือฉีดน้ำหล่อลื่นข้อเข่า (เฉพาะบางราย)
เหมาะสำหรับคนที่
- ปวดมาก เดินไม่ได้
- เข่าบวมอักเสบ
- ทำกายภาพไม่ได้เพราะเจ็บมาก
น้ำหล่อลื่นช่วยให้ข้อเคลื่อนไหวลื่นขึ้น ลดเสียงกรอบแกรบ และทำให้ใช้งานได้ดีขึ้น
7) อุปกรณ์เสริมลดแรงกระแทกเข่า
- สนับเข่า
- รองเท้าพื้นนุ่ม เดินสบาย
- แผ่นรองเท้าที่ช่วยกระจายแรง
ช่วยลดแรงกระแทกลงข้อเข่าได้อย่างชัดเจนครับ
วิธีป้องกันไม่ให้เข่าเสื่อมเพิ่ม
✔ เสริมกล้ามเนื้อทุกวัน
ทำท่าง่าย ๆ วันละ 5–10 นาที ช่วยชะลอไม่ให้ข้อเสื่อมเร็ว
✔ เลือกกิจกรรมที่ไม่กระแทกเข่า
เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ
✔ ควบคุมน้ำหนักสม่ำเสมอ
น้ำหนักตัวคือตัวกำหนดความเสื่อมของข้อโดยตรง
✔ เลี่ยงท่าร่างที่ทำลายเข่า
เช่น นั่งยอง พับเพียบ กระโดดลงแรง ๆ
✔ ตรวจสุขภาพเข่ากับแพทย์ปีละครั้ง
เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงและปรับการรักษา
หมออยากบอกว่า…
เข่าเสื่อมระยะ 1–2 ไม่ใช่โรคร้ายแรง และไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเลยครับ หากดูแลถูกวิธี อาการจะดีขึ้นมากและสามารถใช้ชีวิตได้ปกติโดยไม่ต้องเจ็บเรื้อรัง
หมอพบว่าคนไข้จำนวนมากดีขึ้นมากเพียงแค่ปรับท่าทาง ลดน้ำหนักเล็กน้อย และบริหารกล้ามเนื้อสม่ำเสมอ
เริ่มดูแลเข่าตั้งแต่ตอนนี้ จะช่วยชะลอไม่ให้เสื่อมมากขึ้น และยังช่วยให้ใช้ชีวิตได้อย่างคล่องตัวในระยะยาวครับ 😊
บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่
ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง)
ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ
สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ
📱 Line ID: @doctorkeng โทร 081-5303666
#เข่าเสื่อม #ปวดเข่า #ข้อเข่า #ข้อเข่าเสื่อมระยะแรก #ป้องกันเข่าเสื่อม #หมอเก่งให้ความรู้ #กระดูกและข้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น