วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ข้อเสื่อม ข้อเข่าพังจากโรครูมาตอยด์ — ทำไมเกิดขึ้นเร็ว และดูแลอย่างไรไม่ให้เสียข้อถาวร


 

ข้อเสื่อม ข้อเข่าพังจากโรครูมาตอยด์ — ทำไมเกิดขึ้นเร็ว และดูแลอย่างไรไม่ให้เสียข้อถาวร

หลายคนที่เป็นโรครูมาตอยด์อาจเริ่มมีอาการปวดเข่าบ่อย บวม นิ่ม ๆ ร้อน ๆ และรู้สึกว่าข้อเข่าเริ่มใช้งานไม่เหมือนเดิม เดินนานไม่ได้ ลุกนั่งแล้วเจ็บ หรือบางคนเริ่มรู้สึกว่า “ข้อเข่าเหมือนหลวม ๆ จะทรุดตลอดเวลา”

หลายคนเข้าใจว่าโรครูมาตอยด์ทำให้ “ข้ออักเสบเฉย ๆ” แต่ความจริงคือ ถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษาให้ถูกจุด โรครูมาตอยด์สามารถทำให้ ข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าปกติหลายเท่า จนถึงขั้นข้อพังหรือผิดรูปได้

หมออยากเขียนเรื่องนี้เพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจสาเหตุ อาการเตือน การตรวจ และวิธีรักษาแบบถูกต้อง ก่อนที่ข้อเข่าจะเสียหายจนแก้ไขยากครับ

เหตุการณ์จากคนไข้ใกล้ตัว

คุณลัดดาวรรณ อายุ 52 ปี เป็นรูมาตอยด์มา 6 ปี ช่วงแรกกินยาบ้าง หยุดบ้าง เพราะรู้สึกว่าอาการดีขึ้น แต่ 1 ปีก่อนเริ่มปวดเข่ามากขึ้นจนเดินไกลไม่ได้ และเข่าบวมแทบทุกวันตอนตื่นนอน

เธอบอกหมอว่า:

“หมอคะ หนูนึกว่าแค่ข้ออักเสบ แต่นี่เข่าหนูเหมือนทรุด จะยืนลำบากมาก กลัวว่าจะต้องผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าแล้วค่ะ”

หลังตรวจพบว่าเธอเริ่มมีภาวะข้อเข่าเสื่อมจากรูมาตอยด์ ซึ่งเกิดขึ้นเพราะ ข้ออักเสบเรื้อรังนานจนกระดูกอ่อนถูกทำลาย

เมื่อปรับยา ควบคุมโรคอย่างต่อเนื่อง และทำกายภาพอย่างถูกวิธี อาการปวดและบวมลดลงมาก และช่วยชะลอความเสื่อมได้ทัน

หมอจึงอยากให้ทุกคนรู้ว่าการ “ควบคุมการอักเสบตั้งแต่เนิ่น ๆ” สำคัญที่สุดในการป้องกันข้อเข่าเสื่อมจากรูมาตอยด์ครับ

ข้อเสื่อมจากโรครูมาตอยด์เกิดขึ้นได้อย่างไร?

รูมาตอยด์เป็นโรคที่ภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดการอักเสบในเยื่อบุข้อ เมื่อข้ออักเสบต่อเนื่องนานปี จะเกิดผลดังนี้:

  • กระดูกอ่อนที่บุข้อเข่าเริ่มถูกทำลาย

  • น้ำข้อผิดปกติ ทำให้ข้อลื่นน้อยลง

  • เส้นเอ็นรอบข้อเข่าเริ่มหย่อน

  • เกิดการสึกหรอเร็วกว่าคนทั่วไปหลายเท่า

จึงไม่น่าแปลกที่ผู้ป่วยรูมาตอยด์บางรายข้อเสื่อมเร็วกว่าผู้สูงอายุที่ไม่เป็นโรครูมาตอยด์ครับ

อาการที่บอกว่าข้อเข่ากำลังถูกทำลายจากรูมาตอยด์

  • ปวดเข่าชัดเจน โดยเฉพาะตอนตื่นนอนหรือตอนเย็น

  • เข่าบวม นิ่ม ร้อน

  • มีอาการฝืดหรือตึงตอนเช้า นานกว่า 30 นาที

  • เดินไกลไม่ได้เหมือนเดิม

  • เข่าทรุดเวลาเหยียบพื้น หรือรู้สึกว่าข้อไม่มั่นคง

  • เข่าเริ่มโก่งหรือผิดรูป

ถ้าเริ่มมีอาการเหล่านี้ ควรตรวจให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันข้อพังครับ

ตรวจอย่างไรให้รู้ว่าข้อเข่าเสียหายมากน้อยแค่ไหน?

1) ตรวจร่างกายโดยแพทย์

ดูอาการบวม ความร้อน การขยับ และความมั่นคงของข้อ

2) ตรวจเลือด

  • ค่าบ่งชี้การอักเสบ

  • ค่าที่เกี่ยวข้องกับรูมาตอยด์

ช่วยประเมินความรุนแรงและกิจกรรมของโรค

3) เอกซเรย์ข้อเข่า

ดูว่ามีความเสื่อมหรือกระดูกอ่อนสึกมากน้อยแค่ไหน

4) อัลตราซาวด์ข้อ

ช่วยดูเยื่อบุข้ออักเสบ น้ำในข้อ และเส้นเอ็นรอบข้อ

5) MRI (กรณีจำเป็น)

ช่วยดูรายละเอียดของกระดูกอ่อน เอ็น และการอักเสบที่ลึกกว่าเอกซเรย์เห็น

ผลการตรวจทั้งหมดช่วยให้หมอวางแผนรักษาเพื่อชะลอความเสื่อมให้ได้มากที่สุดครับ

การรักษา: ทำอย่างไรให้ข้อเข่าไม่พังเร็ว

1) ควบคุมโรครูมาตอยด์ให้ดี

เป็นหัวใจของการชะลอข้อพัง

แพทย์จะเลือกใช้ยาเฉพาะของโรครูมาตอยด์ เช่น

  • ยากลุ่มควบคุมโรค (DMARDs)

  • ยากลุ่มชีวภาพ (ตามความจำเป็น)

เพื่อหยุดการอักเสบก่อนที่ข้อเข่าจะเสื่อมมากขึ้น

2) ฉีดยาลดการอักเสบเฉพาะจุด

ในกรณีข้อเข่าบวมมาก การฉีดยาเข้าในข้อช่วยให้การอักเสบสงบเร็ว ฟื้นตัวง่ายขึ้น และลดความเสียหายของกระดูกอ่อน

3) กายภาพบำบัด

ช่วยให้กล้ามเนื้อรอบข้อเข่าแข็งแรงและลดแรงกดต่อข้อ

ประกอบด้วย:

  • บริหารกล้ามเนื้อต้นขา

  • ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ

  • ฝึกการเดินและทรงตัว

4) ควบคุมน้ำหนัก

น้ำหนักที่ลดลงแม้เพียง 5–10% ช่วยลดแรงกดบนข้อเข่าได้อย่างชัดเจน

5) ปรับพฤติกรรม

  • หลีกเลี่ยงขึ้น-ลงบันไดบ่อย ๆ

  • หลีกเลี่ยงการนั่งกับพื้น นั่งพับเพียบ หรือนั่งขัดสมาธิ

  • เลือกรองเท้าพื้นนุ่ม

6) ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียม (เฉพาะราย)

ใช้ในกรณีที่ข้อเข่าเสียหายมาก เดินลำบาก หรือรูปข้อผิดรูปจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน

การผ่าตัดช่วยให้เดินได้ดีขึ้น ลดปวด และปรับคุณภาพชีวิตได้มาก แต่จะทำเฉพาะในรายที่จำเป็นจริง ๆ

พยากรณ์โรค

  • หากควบคุมการอักเสบได้ดี ข้อเข่าสามารถใช้งานได้อีกยาวนาน

  • ผู้ป่วยที่ดูแลต่อเนื่องมักป้องกันไม่ให้ข้อพังได้

  • แต่ถ้าปล่อยไว้นาน ข้ออาจเสื่อมมากจนต้องผ่าตัด

จุดสำคัญคือ “เริ่มรักษาเร็วและต่อเนื่อง” ช่วยลดความเสียหายของข้อได้มากที่สุดครับ

หมออยากบอกว่า…

รูมาตอยด์ไม่ได้ทำให้แค่ข้ออักเสบชั่วคราว แต่สามารถทำให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วและผิดรูปได้หากปล่อยไว้นาน การรักษาอย่างต่อเนื่อง การปรับยาให้เหมาะสม และการทำกายภาพสม่ำเสมอ คือกุญแจสำคัญในการป้องกันไม่ให้ข้อพัง

ถ้าเริ่มปวดเข่า บวม หรือตึงตอนเช้าเป็นเวลานาน อย่ารอให้ข้อเสียหายจนแก้ไขยากนะครับ การตรวจเร็วช่วยรักษาได้ดีที่สุด


บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่
ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง)
ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ
สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ
📱 Line ID: @doctorkeng โทร 081-5303666

#รูมาตอยด์ #ข้อเข่าเสื่อม #ข้อเข่าพัง #ข้ออักเสบเรื้อรัง #หมอเก่งให้ความรู้ #กระดูกและข้อ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น